>>>จ้างผู้ช่วยกี่คนดี<<<

เป็นความลังเลหนึ่งที่มีอยู่ตลอดสิบกว่าปี
ตอนเปิดคลินิกใหม่ๆก็ไม่กล้าจ้างเยอะกลัวไม่มีคนไข้
ยิ่งหมอที่รับราชการด้วย เปิดคลินิกเฉพาะตอนเย็นยิ่งไม่กล้าจ้างเข้าไปอีก

พอเปิดมาได้สักพักก็รู้สึกเบื่อกับปัญหาขาดลามาสาย อยากแต่จะจ้างเพิ่มอยู่ตลอดเวลาเพื่อตัดปัญหา
แต่เค้าก็ว่ากันว่ามี 2 อย่างที่มีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอนั่นคือ” เงินกับที่ “

ไม่จริงสินะ....ผู้ช่วยอ่ะมีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ

วิธีแรก...โดยหลักการแรงงานจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 20% ของยอดขาย
ก็ลองประมาณการดูว่ายอดขายที่เราคิดไว้สักเท่าไหร่

เอาสมมติ เป็นคลินิกเปิดใหม่ต่างจังหวัดทำเฉพาะตอนเย็น กับ เสาร์ อาทิตย์ยอดขายสัก 300,000 ดีมั้ย

ค่าแรงพนักงานก็จะอยู่ที่ 20% ก็คือ 60,000 ก็จะจ้างพนักงานค่าแรง 12,000 บาท ได้ ประมาณ 5 คนเลยนะคะ

หรือจะเหลือค่าแรงตัวเองไว้หมื่นนึง ในฐานะผู้จัดการใหญ่ ก็ยังได้5555
5 คนก็ดีไซน์ได้หลายแบบนะ

>ก็อาจจะจ้างเคาเตอร์ 1 ตำแหน่ง ผู้ช่วย 3 แม่บ้านหรือพนักงานล้าง 1
>หรือจะเป็น เคาเตอร์ 2 ผู้ช่วย 3
>หรือจะเป็น เคาเตอร์ 1 ผู้ช่วย 4
ก็ดีไซน์ได้หลายแบบเลยนะคะ

หรืออีกวิธีคิดนึงนะคะ
ก็คิดตามหน้างานเลยค่ะ
เช่นคลินิกเปิดให้บริการเฉพาะช่วงเย็น ช่วงกลางวันก็อาจ
ให้ผู้ช่วยมาเตรียมร้าน เฝ้าหน้าร้านรับคนไข้ 1 คนเป็นเวรเช้าไป
เวรบ่ายก็ สี่โมงเย็นถึง 2 ทุ่มเป็น เคาเตอร์ 1 ผู้ช่วย 2 วนสลับกันไป ปิดทำการ 1 วัน/สัปดาห์

กันเหนียวก็หาอีกหนึ่งตำแหน่งเวลาพนักงานลาหรือ ลาออกจะได้ไม่ติดขัดมากเกินไปค่ะ แล้วก็คุมด้วยอัตราต้นทุนแบบแรกอีกทีนึง เพื่อไม่ให้ต้นทุนแรงงานมากเกินไป

โดยส่วนตัวจะใช้วิธีที่สองค่ะ คิดตามหน้างานเอา พอคิดงานได้เพิ่มก็จะหาพนักงานเพิ่มอยู่เรื่อยๆตามความละเอียดของงานที่มากขึ้นค่ะ และก็จะจ้างเกินไว้ ครึ่งหรือหนึ่งแรงเผื่อเหลือเผื่อขาดค่ะ

หากเกิดมีพนักงานป่วยต้องนอนโรงพยาบาล เค้าก็ลาได้ เราก็ไม่ต้องวุ่นวายใจ คือรู้ตัวเองเลยค่ะเวลาพนักงานขาดนี่จะประสาทกินมากเลยค่ะ

และที่สำคัญคือปริมาณงานกับคนก็ต้องสัมพันธ์กันนะคะ

งานเยอะคนน้อยก็ไปไม่รอดค่ะถึงแม้เงินจะมาก สุดท้ายก็อยู่เพราะเงินแต่คุณภาพไม่ได้

ส่วนงานน้อยคนเยอะก็จะเฉื่อยๆแฉะๆ เวลาว่างๆนั่งเม้ากัน สุดท้ายทะเลาะกันเองอีก

เชื่อมั้ยว่า...เวลาที่พนักงานมีปัญหามากที่สุด
ก็คือเวลาที่คนไข้น้อย เวลาหมอไปเที่ยวสัก 10 วัน แล้วว่างจัดๆนะ กลับมาทีไร ต้องได้สักเรื่องทุกทีสิน่า
Scroll to Top