Assistant first
Patient second


“ทำงานกันแบบครอบครัว”
ใช้ได้...แต่ไม่ใช่กับทุกคน

และคลินิกส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น
หมอไม่ได้มองผู้ช่วยเป็นพนักงานคนหนึ่ง
เพราะส่วนใหญ่ความสัมพันธ์เริ่มจากการเป็นหมอกับผู้ช่วย

มาช่วยข้างเก้าอี้ทุกวัน รู้ใจกันยิ่งกว่าใครๆ ขยับนิดนึงก็รู้ว่าต้องการอะไร
สารทุกข์สุขดิบสามารถรับรู้กันได้ระหว่างเคสตลอดเวลา

และยิ่งอยู่กันนานๆ ถึงขั้นเลี้ยงลูกให้ ไปรับไปส่ง ทำธุระให้หมอทุกเรื่อง หมอจึงให้ความสำคัญกับผู้ช่วยประหนึ่งเป็นคนในครอบครัว
แต่ไม่ใช่กับผู้ช่วยทุกคนนะจ๊ะ

คุณหมอหลายท่านไม่ได้วางระยะที่เหมาะสมไว้ตั้งแต่แรก จึงลำบากใจในการบริหารจัดการ ยิ่งใช้คำว่าทำงานกันแบบครอบครัวยิ่งเวิ่นไปกันใหญ่

ความสัมพันธ์แบบนี้จะว่าดีก็ดี แต่ก็มีข้อเสียมากอยู่ ลองเปลี่ยนมาบริหารแบบทีมฟุตบอลดูก็ดีอยู่นะ

ซึ่งในทีมก็จะมี
กองหน้าเป็นเค้าเตอร์
กองกลางเป็นผู้ช่วยข้างเก้าอี้
กองหลังเป็นแบคออฟฟิศ

ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง มีวินัยและขยันซ้อม
ใครทำหน้าที่ไม่ดี ก็ต้องพร้อมเปลี่ยนตำแหน่งหรือเปลี่ยนตัวตลอดเวลา

ใครที่เป็นจุดอ่อนก็ปล่อยให้ย้ายทีมไปบ้าง ให้ไปเป็นจุดอ่อนของทีมอื่นแทน5555
หรือถ้าเล่นไม่ดี ไม่มีวินัย...ก็ต้องขายทิ้ง
Scroll to Top