เวลาต้องรับพนักงานใหม่สิ่งนึงที่ต้องคอยลุ้นคือ เค้าจะอยู่ได้มั้ยนะวันแรกๆที่มาทำงาน พอเลิกงานปั๊บจะมีคำถามทันทีเลย “ พรุ่งนี้จะมามั้ย ”
ในต่างจังหวัดแรงงานสายงานนี้จะมีน้อย คนส่วนใหญ่ที่รับมาคือยังไม่เป็นงาน ไม่รู้จักงานนี้ด้วยซ้ำ
ดังนั้นก่อนจะลุ้นว่าเค้าจะทำงานดีมั้ย ต้องมานั่งลุ้นก่อนว่าเค้าจะมาทำงานมั้ย …เป็นงั้นไป
ในขั้นตอนการรับสมัครที่คลินิกจะมีผู้จัดการคลินิกซึ่งจะทำหน้าที่ HR โดยบังเอิญ กับหัวหน้าผู้ช่วยจะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้ เค้าก็จะมีขั้นตอนตามปกติทั่วไปคือ กรอกประวัติแล้วสัมภาษณ์ ก็จะเป็นการซักถามด้วยคำถามทั่วไป เป็นใครมาจากไหนทำอะไรมาบ้าง แล้วก็มีคำถามที่จำเพาะเกี่ยวกับงาน เช่น เลิกงานสองทุ่มได้มั้ย เลิกช้าได้มั้ย ถ้าทำของเสียหายจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าโดนดุโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำผิดจะตอบโต้อย่างไร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงพอได้แคนดิเดทมา 3 คนเค้าก็จะนำมาเสนอหมอแล้วเลือกมา 1 คน ถ้าหมอโอเคก็เริ่มงาน..วันเริ่มงานทุกคนก็จะตื่นเต้นเล็กน้อย ผ่านมากี่คนก็ยังตื่นเต้น5555ลุ้น ลุ้น ลุ้น…จากสถิติระยะเวลาสั้นที่สุดที่มาทำงานคือ 1 วัน ยังไม่เคยมีมาเช้าเที่ยงกลับนะและส่วนใหญ่การไม่มาก็คือจะหายไปเลย หายไปโดยไม่บอกกล่าวทั้งๆ ที่บอกแล้วว่าถ้าไม่มาให้โทรแจ้ง ก็ไม่โทร ก็เลยไม่เคยได้ทราบเลยว่าทำไมถึงไม่มาทำงาน
แต่เราก็พอจะรู้คร่าวๆ จากการที่เค้าจะไม่ทานข้าวร่วมกันกับเพื่อน อาจจะปลีกตัว หรือนั่งทานข้าวด้วยกันแต่ไม่พูดคุยกับใครส่วนคนที่ผ่านวันแรกได้ก็ยังพอมีหวังว่าเค้าจะอยู่ได้ สัญญาณที่ดีว่าเค้าจะอยู่ได้คือ เค้าสามารถนั่งร่วมวงทานข้าวเที่ยงด้วยกันได้ หรือสองสามวันผ่านไปเค้าเริ่มไป hang out ตอนเลิกงานด้วยกันได้ ไปเดินงานกาชาด ไปกินหมูกระทะก็ว่ากันไป แบบนี้ก็พอจะอนุมานว่าพอได้อยู่ถ้าเค้าอยู่กันได้ เข้ากันได้ เค้าจะเปิดใจเรียนรู้งานกันง่ายขึ้น มากกว่าการพิจารณาจากความรู้ความสามารถ การมองหาคนที่ “ สามารถนั่งร่วมวงทานข้าวเที่ยงด้วยกันได้ “ ก็เป็นข้อนึงที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ