เค้าว่ากันว่า
“ หมอคือนักขาย...ที่ปิดการขายได้เก่งที่สุด “
หลายกูรูทางการขายมักจะกล่าวประโยคนี้ ในคอร์สปิดการขาย

หลายกูรูทางการขายมักจะกล่าวประโยคนี้ ในคอร์สปิดการขาย

ได้ฟังแล้วก็รู้สึกปฏิเสธทันที555

ถ้าเราคือนักขายที่ปิดการขายได้เก่งที่สุด งานขายออนไลน์เราคงปังไม่ไหวไปแล้ว แต่ในทางกลับกัน งานขายของออนไลน์ของเราลุ่มๆดอนๆมาก

แล้วจริงๆมันคืออะไรกันแน่!!!!

ที่เค้ายกตัวอย่างประโยคนั้น นักขายเค้ามองว่าวิธีการของหมอนั้นมุ่งแก้ปัญหา ค่อยๆซักประวัติและหาสาเหตุ
หมอไม่ได้มุ่งอธิบายสรรพคุณของยาหรือผลลัพธ์เท่าไหร่นัก
แต่จะตรวจโรคและค้นหาสาเหตุหรือต้นตอของโรค
วิเคราะห์และวินิจฉัยโรคแล้วค่อยเสนอแนวทางการรักษา
ทำให้คนไข้หรือเปรียบเทียบได้คือลูกค้า
จึงมักจะไม่ปฏิเสธยาหรือการรักษาที่หมอเสนอ

รู้ตัวอีกทีก็รับยาหรือเข้ารับการรักษาไปเรียบร้อยแล้ว

หมอไม่ได้เน้นสินค้าแต่เน้นแก้ปัญหา คนไข้จึงไม่รู้สึกว่าถูกขาย
เมื่อเหล่านักขายจับจุดตรงนี้ได้ก็เลยเอาไปประยุกต์กับการขายจนเป็น เคล็ดลับการขายไปในที่สุด

เอาเข้าจริงมันไม่ได้อยู่ที่วิธีการหรอกนะ
แต่สำนึกในการทำงานของเรามันคือ…การรักษา
เป้าหมายคือการทำให้คนไข้หายจากโรค
มันไม่ใช่การขายตั้งแต่แรก

ไม่เหมือนนักขายที่หน้าที่เค้าคือขาย
เป้าหมายคือ…ยอดขาย

หมอถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำบัดโรค และหลักๆคือผลิตป้อนให้กับหน่วยงานภาครัฐซึ่งไม่ได้แสวงหากำไรด้วยซ้ำไป ดังนั้นความตั้งใจมาขายมันไม่ได้มีมาตั้งแต่ต้น

แต่เมื่อการรักษากลายมาเป็นธุรกิจ
หมอจึงจำเป็นต้องทำรายได้เพื่อจ่ายค่าตอบแทน และทำกำไรให้กับผู้ลงทุน
การขายจึงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อหมอต้องขาย ต้องทำกำไร
บางทีหมออย่างเราก็เผลอทำตัวเป็นนักขายหน้าใหม่
ที่ต้องการปิดการขายอย่างหนักหน่วง
ทำโปร ลด แลก แจก แถม ฮาร์ดเซลลสุดๆไปเลย

แต่อย่าลืมนะว่า
ในขณะที่เราพยายามเป็นนักขาย
ท๊อปเซลล์ส่วนใหญ่ก็พยายามทำตัวเป็นหมอ

คนไข้ที่มาหาหมอ
เค้าต้องการคนช่วยแก้ปัญหาบางอย่าง
คนที่จะช่วยให้เค้าหายจากความเจ็บป่วย

หมอก็แค่…
อย่าเผลอเน้นยอดขาย
อย่าเผลอทำให้เค้ารู้สึกตัวว่าถูกขาย
หมอก็จะเป็นผู้ที่ปิดการขายได้เก่งที่สุด…ในแบบที่เค้าว่ากัน

Scroll to Top