ช่วงก่อนเปิดประมาณเดือนนึง ชีวิตช่วงนั้นจะเวิ่นมากเป็นพิเศษ นี่ขนาดไม่ดูฤกษ์งามยามดีในการเปิดนะคะ ถ้ายึดฤกษ์เปิดน่าจะวุ่นกว่านี้มากนัก
>>> คิดไม่จบ
มีแปลนก็แล้ว วางงบก็แล้ว วางมัดจำก็แล้ว แต่ในใจมันก็ยังไม่ยอมจบ ปรับตรงนั้นดีมั้ย แก้ตรงนี้ดีมั้ย ได้ไปฟังตรงนั้นมา ไปเห็นตรงโน้นมา
เหล่านี้มันทำให้แพลนงานมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา หน้างานที่ทำร่วมกับเราก็จะยาก มันก็เลยทำให้งานไม่จบ
วิธีป้องกันก็คือ คิดให้จบตั้งแต่ต้นแล้วพยายามตามแพลนให้มากที่สุด อย่างอื่นค่อยว่ากัน
>>> งบบาน
ทั้งๆที่เราจัดสรรงบอย่างดี เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้แล้ว 10% แต่เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหมอเป็นคนเดินเลือกของทุกอย่างเอง เพราะเรามักจะเจอไอเทมที่เด็ดกว่า บรรเจิดกว่าที่แพลนไว้อยู่เสมอ
แล้วก็จะตามมาด้วยประโยคที่ว่า…”แพงกว่านิดนึงเอง”
หลายนิดนึงเข้า มันก็จะบานจนหุบไม่ลงในที่สุดค่ะ
วิธีป้องกันก็คือ พยายามควบคุมสติค่ะ อันไหนยังไม่จำเป็นก็รอไว้ก่อน คิดซะว่าเดี๋ยวจะมีสิ่งที่เริ่ดกว่าออกมา ก็ค่อยซื้อกะได้
หรือหักดิบไปเลยด้วยการ อย่าไปเดินเลือกของด้วยตัวเองทุกครั้ง เดินให้น้อยครั้งที่สุด ใช้เวลาในการซื้อให้น้อยที่สุดค่ะ
>>> ร้านไม่เสร็จ
ข้อนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ
“หมอ”
เพิ่มโน่น ทุบนี่ จะเอาโน่น เอานั่น ไม่สิ้นไม่สุด หรือเป็นลูกอิชั่งเพิ่มนั่นเอง
“ยูนิตไม่มา อุปกรณ์ไม่ครบ”
เนื่องจากของบางอย่างไม่ได้มีสตอกอยู่ในไทย สั่งแล้วต้องส่งเรือมา อันนี้ก็จะใช้เวลา ดังนั้นเราควรดีลกับเซลล์ตั้งแต่เนิ่นๆ เวลาดีลก็ควรจัดสรร หรือทำจำนวนให้มีอำนาจต่อรองกับเซลล์ให้ได้ และมีการตกลงให้ชัดเจน
“ช่างหรือผู้รับเหมา”
อันนี้อ่ะหนาวสุด ช่างหนีงาน ช่างทิ้งงาน ช่างรับงานหลายที่ ด้วยวิธีการทำงานของช่างหรือง่ายๆคือสันดาน555 ของช่างมักจะไปเปิดหน้างานทิ้งไว้ รับเงินงวดแรก เอามาหมุน แล้วกลับมาทำต่อ ถ้าในช่วงนั้นมีงานมาให้เปิดหลายงาน เค้าก็จะหายไป หรืองานที่ใหญ่กว่ามาแทรกเค้าก็จะหายไปเลยค่ะ หายไปเลยจริงๆ
ป้องกันก็คือ
ทำใจไว้ตั้งเนิ่นๆ เวลาเจอจะได้ไม่เจ็บมากและสติไม่หลุดค่ะ
อีกข้อคือเฟ้นหาช่างที่เชื่อถือได้ เช่นมีคนรู้จัก เคยทำงานกันมาก่อน มีคนการันตี
และที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามจ่ายเงินไปก่อนโดยเด็ดขาด ขอย้ำค่ะ!!! ถ้าจ่ายหมดร้อยทั้งร้อย ไม่รอดค่ะ
>>> ขอใบอนุญาตไม่ผ่าน
ยื่นขออนุญาตไปแล้วแต่ สสจ.ก็ยังไม่มาตรวจ ตรวจแล้วก็ยังไม่ผ่าน เอกสารไม่ครบ อันนี้สำคัญมากนะคะ
ห้ามเปิดโดยที่ยังไม่มีใบอนุญาติเด็ดขาดค่ะ!!!
วิธีป้องกันคือ ศึกษากฏข้อระเบียบและทำตามให้ครบทุกข้อตั้งแต่เริ่มเขียนแบบเลยนะคะ และติดต่อสสจ.แต่เนิ่นๆค่ะ
>>> พนักงานไม่พร้อม
คลินิกใหม่ หมอก็ใหม่ พนักงานยิ่งใหม่เข้าไปอีก ถ้าเรามีตัวแม่มาอยู่ด้วย ไม่ว่าจะด้วยการชวนมาจากคลินิกอื่น หรือการไปเจอมาด้วยบุพเพใดๆก็ตามแต่ อันนี้ถือว่าไม่น่าห่วงมากนัก คลินิกก็พอจะรันไปได้ แต่ถ้าไม่มีเลย แนะนำให้รับและเทรนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน
การป้องกันก็คือ
พยายามหาคนที่เป็นงานแล้วมาเป็นหลักค่ะ ถ้าหาไม่ได้ก็พยายามให้เค้ามาเป็นพาร์ทไทม์ก็ได้ค่ะ
ผู้ช่วยเค้าจะมีจริตบางอย่างที่ถ้าเรามีต้นแบบที่ดีมันจะง่ายขึ้นค่ะ เช่นเดี๋ยวไปซักผ้า เดี๋ยวไปทำเครื่องมือ เดี๋ยวไปพับก๊อซ จริตพวกนี้มันอาศัยตัวอย่างที่ดีจะง่ายขึ้นค่ะ เพราะเราเป็นหมอก็ยังลำดับให้เค้ายากเลยค่ะ
ส่วนการสอนผู้ช่วยใหม่จะหาคนที่เป็นงานมาสอนมาเทรน หรือจะสอนเอง เทรนเองก็ได้ค่ะถ้ามีเวลา
ทั้ง 5 ข้อนี้เชื่อว่าถ้าวางแผนดีๆมันก็จะไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่นัก
ในช่วงก่อนเปิดนั้นมันค่อนข้างหนักหน่วงทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะคิดเองทำเองคนเดียว ไม่ได้มีครอบครัวคอยช่วยหรือไม่ได้มีใครเคียงข้าง😅
แต่มันก็ไม่ยากจนเกินไปนะคะ
นักรบย่อมมีแผลอยู่แล้วค่ะ
ถ้าเราเตรียมตัวดี มียาดีๆ บาดแผลก็หายเร็วค่ะ แล้วเราก็จะมีภูมิที่ดีค่ะ เพราะนี่มันแค่เริ่มต้นค่ะ555
เมื่อเปิดคลินิกได้เรียบร้อยแล้วในช่วงแรกเราก็จะหายเหนื่อย ชื่นบานไปได้สักพัก
หลังจากนั้นก็จะมีอย่างอื่นถาโถมเข้ามาแบบไม่ยั้งเลยค่ะ
แต่ใครจะกลัวคะ เปิดคลินิกเองได้ก็ไปต่อได้ค่ะ😄