6 วิธีป้องกันการโกงเงินในคลินิก

#โกงเงินในคลินิก เป็นปัญหาคลาสสิคอย่างหนึ่งที่เราอาจจะไม่ทราบว่ามีอยู่ในคลินิกเราก็เป็นได้
กว่าเราจะรู้ก็เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งหรือหลายสิบครั้ง หรือหลายร้อยครั้งก็เป็นได้นะคะ
สาเหตุส่วนใหญ่ก็เกิดจากพนักงานและความหละหลวมของเราที่มักจะอยู่กันแบบไม่มีระบบที่ชัดเจน
และเราก็นั่งทำคนไข้ในขณะที่พนักงานกำลังคิดเงิน
.
.
ลองดูง่ายๆว่า…
เราลงบัตรคิดเงินคนไข้ไป 800 บาท
พนักงานผู้ซึ่งทราบอยู่แล้วว่า คนไข้ท่านนี้ไม่เคยขอใบเสร็จ
ก็เข้าทาง…
เลยแจ้งคนไข้ว่า ค่าใช้จ่ายวันนี้ 1000 บาทนะคะ
เสร็จแล้ว 200 สบายๆ
อันนี้ถ้าคิดแบบวินวิน คือหมอไม่ได้เสียตังค์หนิ หนูไม่ได้โขมยเงินหมอนะ…ก็คือเจ๊านะ
เอ๊ะ…แต่ได้เหรอ
จบวันทำแบบนี้สัก 3 เคส ได้แล้ว 600 สบายๆ
เดือนๆนึงได้มากกว่าเงินเดือนอีก5555
.
.
หลายท่านแก้ปัญหาโดยการให้ญาติหรือคุณแม่มานั่งเฝ้าเคาเตอร์
ซึ่งก็เป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง
แต่คือ ท่านคงไม่ได้เฝ้าให้เราได้ตลอดเวลาและตลอดไปใช่มั้ยคะ
หรือติดกล้องวงจรปิด ถามว่าเราสามารถมานั่งเช็คกล้องได้ทุกวันหรือไม่
ตอบตรงนี้เลยว่า…ไม่ ไม่เช็คแน่นอน แล้วเด็กมันก็รู้ว่าเราเช็คหรือไม่เช็ค
ช่วงนี้หมอยุ่งๆ ไม่เช็คชัวร์ หมอเปิดกล้องยังไม่เป็นเลย ไม่เช็คชัวร์…เรื่องพวกนี้นังเด็กเรามันรู้หมดล่ะคะ
.
เลยลองสรุปมาคร่าวๆ เท่าที่ทำมานะคะ
.
.
6 วิธีป้องกันการโกงเงินในคลินิก
ข้อนี้สำคัญมาก การคัดเลือกพนักงานที่มีเทือกเถาเหล่ากอที่ดี อันนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นคนมีเชื้อมีสายใดๆนะคะ
แต่หมายถึงเราควรรู้ข้อมูลเค้าประมาณนึง พ่อแม่เป็นใคร บ้านอยู่ไหน ที่บ้านมีพฤติกรรมอย่างไร พฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวพนักงานเองเป็นอย่างไร ชอบยืมเงินคนอื่นรึเปล่า
มีหลายพฤติกรรมที่เราสามารถเอามาพิจารณาได้
เมื่อเลือกพนักงานแล้วก็ควรมีค่าตอบแทนที่เหมาะสมที่เค้าสามารถใช้จ่ายได้เพียงพอ
พอที่เค้าจะไม่รู้สึกโดนเบียนเบียด
พอที่จะบอกเค้าว่าหมอให้ค่าให้ราคาเค้านะ
พอที่เค้าจะไม้ต้องตัดสินใจทำอะไรที่เรากังวล

การตรวจสอบนี้เกิดขึ้นได้มากกว่าหนึ่งจุดนะคะ
เช่น มีพนักงาน 2 ท่านนั่งคู่กัน เวลาจะทำอะไรก็จะยากขึ้นนอกจากจะเห็นดีเห็นงามกัน
เพราะฉะนั้นหลายที่เลยไม่ได้เน้นให้พนักงานรักกันเท่าไหร่ เพราะเวลาพนักงานทะเลาะกันมันจะเป็นผู้ตรวจสอบที่ดีแทนเราไปเอง555
มันจะฟ้องกันแบบอุตหลุดไปเลยล่ะ
หรือสุ่มโทรจากคนไข้ อันนี้ไม่ค่อยแนะนำให้ทำถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อาจทำในกรณีที่ต้องสงสัยแล้วเท่านั้น

เพื่อให้เงินสดผ่านมือน้อยที่สุดและเราเห็นยอดโอนโต้งๆไปเลย
ลดการสำรองเงินทอนหรือการทอนเงินผิด
แต่อันนี้คุณหมอก็ต้องเช็คยอดเงินโอนทุกวันและแยกบัญชีให้ชัดเจนเพื่อสะดวกในการเช็คและติดไว้หน้าเคาเตอร์เลย…โอนบัญชีนี้เท่านั้น
และควรเตรียมบัญชีต่างธนาคารไว้อีก 2 ธนาคารเผื่อกันแอพล่ม
อันนี้ดีนะแต่อย่าลืมว่าทุกยอดโอนนั้นจะสำแดงรายได้เราทันที เพราะฉะนั้นจ่ายภาษีต้องครบนะคะ

ใครจะโขมยอัลจิเนต ไออาร์เอ็มเหรอ บ้าไปแล้ว ไม่มีหรอก😁
เด่วก่อน!!!
หมวก แมส ถุงมือ ทิชชู แอลกอฮอล์อีกหลายรายการล่ะ แค่หยิบแมสใส่กลับบ้านคนละชิ้นก็ไม่ได้แล้วนะคะ
ไม่ใช่ว่า เอ้อ 5 บาท 10 บาทนะ แต่มันสร้างนิสัยที่ไม่ดี
หยิบอะไรก็ได้ และไม่หวงสต๊อก ใช้แบบไม่บันยะบันยัง
ต้องเริ่มจากการทำระบบคลังและสต๊อกให้เรียบร้อยก่อน ประมาณการการใช้งานกับยอดขายให้สอดคล้องกัน และสุ่มเช็คอยู่ตลอดเวลา
ควรจะต้องมีคนควบคุมสต๊อกและคนเช็คสต๊อก และควรเป็นคนละคนที่ไม่ถูกกันอีกเช่นกัน5555

ถึงแม้ว่ามันจะดึงปลั๊กออกได้และมันมักจะเสียเวลาเกิดปัญหา
แต่ก็ควรมีค่ะ
อย่างน้อยเวลามันเสียเราได้รู้ว่ามันอาจจะมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว
ถึงครั้งนี้เราจะจับไม่ได้แต่เราจะได้เอะใจแล้ว ยิ่งถ้าเสียบ่อยๆคือใช่เลยค่ะต้องเปลี่ยนคนที่นั่งตรงกล้องนั้นแล้วค่ะ

ทำไฮไลท์หัวใจ 4 ดวงไปเลยนะคะสำหรับข้อนี้ #สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
ระบบที่ดีจะควบคุมคนค่ะ โปรแกรมถูกออกแบบมาโดยทันตแพทย์ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ
นอกจากโปรแกรมจะตอบสนองความต้องการหลายๆอย่างตามที่เจ้าตัวผู้ออกแบบต้องการแล้วซึ่งบางอย่างเราก็ไม่ต้องการ555
แต่ข้อสำคัญที่คิดว่าทุกคนต้องการเหมือนกันคือระบบจะตรวจสอบการชำระเงินได้แบบที่ถ้าเราเอามาใช้ให้ครบวงจรแล้วมันจะป้องกันได้เกือบร้อยเปอร์เซนต์
ที่ว่าครบวงจรคือคุณหมอก็จะต้องลงรายการการรักษาในโปรแกรมนั้นและสิ้นสุดการทำงานของคุณหมอในแต่ละวันด้วยการเช็คยอดของตัวเอง
แต่
อันนี้ต้องลองใช้ไปอีกสักพักว่าเราจะเจอจุดรั่วตรงไหนมั้ย แต่ตอนนี้ยังไม่เจอ
ตอนนี้ก็โอเคมากเป็นระบบขึ้นเยอะเลยค่ะ
ซึ่งนอกจากเรื่องยอดเงินแล้ว โปรแกรมนี้ยังทำให้เราสามารถมอนิเตอร์การทำงานของคลินิกได้จากทุกที่ ทำนัดให้คนไข้ได้จากทุกแห่ง
ลองใช้สักพักแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกในโพสต์ต่อๆไปนะคะ #โปรแกรมบริหารคลินิกทันตกรรม dClou.app
Scroll to Top