อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“ถ้ามีโอกาส… ใครๆก็อยากจะขับเมอร์เซเดส”

“ถ้ามีโอกาส... ใครๆก็อยากจะขับเมอร์เซเดส” “ถ้ามีโอกาส... ใครๆก็อยากจะขับเมอร์เซเดส” ถ้ามีเงินสิ่งแรกที่หลายใฝ่ฝันก็คือรถยุโรปงามๆสักคัน ต่อให้ไม่มีเงินก็ยอมเหนื่อย ยอมหาเงินมาผ่อน มีโอกาสดาวน์เมื่อไหร่ก็จะจัด เงินผ่อนต่อเดือนค่อยว่ากัน ด้วยชื่อชั้น ด้วยคุณภาพ ด้วยรูปลักษณ์หรือแค่อยากโชว์...แม้ราคาสูงก็ยอมจ่าย ของดีใครๆก็อยากได้ แพงแค่ไหนก็ยินดีจะจ่าย ลอง... ทำคลินิกให้เหมือนรถยุโรป ที่ใครๆ ก็อยากเข้ามานั่งสักครั้งสิ

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

เค้าว่ากันว่า “ หมอคือนักขาย…ที่ปิดการขายได้เก่งที่สุด “เค้าว่ากันว่า

เค้าว่ากันว่า “ หมอคือนักขาย...ที่ปิดการขายได้เก่งที่สุด “ หลายกูรูทางการขายมักจะกล่าวประโยคนี้ ในคอร์สปิดการขาย หลายกูรูทางการขายมักจะกล่าวประโยคนี้ ในคอร์สปิดการขาย ได้ฟังแล้วก็รู้สึกปฏิเสธทันที555 ถ้าเราคือนักขายที่ปิดการขายได้เก่งที่สุด งานขายออนไลน์เราคงปังไม่ไหวไปแล้ว แต่ในทางกลับกัน งานขายของออนไลน์ของเราลุ่มๆดอนๆมาก แล้วจริงๆมันคืออะไรกันแน่!!!! ที่เค้ายกตัวอย่างประโยคนั้น นักขายเค้ามองว่าวิธีการของหมอนั้นมุ่งแก้ปัญหา ค่อยๆซักประวัติและหาสาเหตุ หมอไม่ได้มุ่งอธิบายสรรพคุณของยาหรือผลลัพธ์เท่าไหร่นัก แต่จะตรวจโรคและค้นหาสาเหตุหรือต้นตอของโรค วิเคราะห์และวินิจฉัยโรคแล้วค่อยเสนอแนวทางการรักษา ทำให้คนไข้หรือเปรียบเทียบได้คือลูกค้า จึงมักจะไม่ปฏิเสธยาหรือการรักษาที่หมอเสนอ รู้ตัวอีกทีก็รับยาหรือเข้ารับการรักษาไปเรียบร้อยแล้ว หมอไม่ได้เน้นสินค้าแต่เน้นแก้ปัญหา คนไข้จึงไม่รู้สึกว่าถูกขาย เมื่อเหล่านักขายจับจุดตรงนี้ได้ก็เลยเอาไปประยุกต์กับการขายจนเป็น เคล็ดลับการขายไปในที่สุด เอาเข้าจริงมันไม่ได้อยู่ที่วิธีการหรอกนะ แต่สำนึกในการทำงานของเรามันคือ...การรักษา เป้าหมายคือการทำให้คนไข้หายจากโรค มันไม่ใช่การขายตั้งแต่แรก ไม่เหมือนนักขายที่หน้าที่เค้าคือขาย เป้าหมายคือ...ยอดขาย หมอถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำบัดโรค และหลักๆคือผลิตป้อนให้กับหน่วยงานภาครัฐซึ่งไม่ได้แสวงหากำไรด้วยซ้ำไป ดังนั้นความตั้งใจมาขายมันไม่ได้มีมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อการรักษากลายมาเป็นธุรกิจ หมอจึงจำเป็นต้องทำรายได้เพื่อจ่ายค่าตอบแทน และทำกำไรให้กับผู้ลงทุน การขายจึงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อหมอต้องขาย ต้องทำกำไร บางทีหมออย่างเราก็เผลอทำตัวเป็นนักขายหน้าใหม่ ที่ต้องการปิดการขายอย่างหนักหน่วง ทำโปร ลด...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

Assistant first Patient second

Assistant first Patient second ใช่แล้วค่ะ โดยปกติมันจะต้องเป็น customer first ใช่มั้ยคะ แต่สำหรับธุรกิจที่ต้องการความยั่งยืนและสายบังคับบัญชาสั้นๆแบบคลินิกทันตกรรมส่วนตัวนั้น ต้องขอให้เป็น assistant first แทนนะคะ >>>เริ่มต้นที่วิธีคิดว่าพนักงานคือนวัตกรรมหนึ่งที่เราต้องลงทุนให้กับคลินิกของเราก่อนค่ะเหมือนเครื่องเอกซเรย์ เหมือนยูนิตทำฟันตอนเราเลือกเราเลือกอย่างไรตั้งโปรแกรมใช้งานโหมดไหนตอนเราใช้งานเรากลัวมันเสีย กลัวมันพังยังไงพอมันเสีย เรารีบเรียกช่างมาซ่อมซ่อมไม่ได้ก็ต้องหยุดใช้งานไปหลายวันก็หยุดฉันใดฉันนั้น>>เลือกคนราคาถูกก็ได้งานราคาถูก ให้เวลา ให้ความสำคัญกับการเลือกคนให้มาก>>โปรแกรมระเบียบการทำงานหรือสอนงานเค้าให้เค้าทำในแบบที่เราต้องการหรือปล่อยเค้าตามมีตามเกิด>>พอเค้ามีปัญหา...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

5 ข้อที่เราต้องเจอก่อนเปิดคลินิก

5 ข้อที่เราต้องเจอก่อนเปิดคลินิก         ช่วงก่อนเปิดประมาณเดือนนึง ชีวิตช่วงนั้นจะเวิ่นมากเป็นพิเศษ นี่ขนาดไม่ดูฤกษ์งามยามดีในการเปิดนะคะ ถ้ายึดฤกษ์เปิดน่าจะวุ่นกว่านี้มากนัก >>> คิดไม่จบ มีแปลนก็แล้ว วางงบก็แล้ว วางมัดจำก็แล้ว แต่ในใจมันก็ยังไม่ยอมจบ ปรับตรงนั้นดีมั้ย แก้ตรงนี้ดีมั้ย ได้ไปฟังตรงนั้นมา ไปเห็นตรงโน้นมา เหล่านี้มันทำให้แพลนงานมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา หน้างานที่ทำร่วมกับเราก็จะยาก มันก็เลยทำให้งานไม่จบ วิธีป้องกันก็คือ คิดให้จบตั้งแต่ต้นแล้วพยายามตามแพลนให้มากที่สุด อย่างอื่นค่อยว่ากัน >>> งบบาน ทั้งๆที่เราจัดสรรงบอย่างดี เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้แล้ว 10% แต่เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหมอเป็นคนเดินเลือกของทุกอย่างเอง เพราะเรามักจะเจอไอเทมที่เด็ดกว่า บรรเจิดกว่าที่แพลนไว้อยู่เสมอ แล้วก็จะตามมาด้วยประโยคที่ว่า…”แพงกว่านิดนึงเอง” หลายนิดนึงเข้า มันก็จะบานจนหุบไม่ลงในที่สุดค่ะ วิธีป้องกันก็คือ พยายามควบคุมสติค่ะ อันไหนยังไม่จำเป็นก็รอไว้ก่อน คิดซะว่าเดี๋ยวจะมีสิ่งที่เริ่ดกว่าออกมา ก็ค่อยซื้อกะได้ หรือหักดิบไปเลยด้วยการ อย่าไปเดินเลือกของด้วยตัวเองทุกครั้ง เดินให้น้อยครั้งที่สุด...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“ ไม่อยากส่งผู้ช่วยหรือพนักงานไปเรียน หรือไม่อยากเสียเวลาในการอบรมหรือสอนงาน #เพราะกลัวเค้าลาออก

“ ไม่อยากส่งผู้ช่วยหรือพนักงานไปเรียน หรือไม่อยากเสียเวลาในการอบรมหรือสอนงาน #เพราะกลัวเค้าลาออก ” เชื่อว่านี่เป็นความกลัวที่หมอฟันอย่างเราจะกลัวกันเยอะเลย ถ้าเป็นการอบรม โดยส่วนตัวก็เคยส่งไปบ้างนานแล้ว ในช่วงที่ยังไม่มีโควิด แต่ก็นานๆสักครั้งหนึ่งประจวบกับไม่ค่อยมีคลาสเรียนหรือคอร์สอบรมที่ตรงกับสายงานผู้ช่วยทันตแพทย์เท่าไหร่ มีครั้งหนึ่งส่งผู้ช่วยไปเรียนตอนที่ภาคศัลย์ของจุฬาจัด กลับมาก็ไม่ได้ว่าจะทำงานดีขึ้นเท่าไหร่เพราะจัดแค่ 2 วัน ก็คงไม่ได้ฝึกฝนอะไรมากมาย แต่ก็ได้ประโยคเด็ดมาประโยคหนึ่ง ความว่า “หนูคิดว่าจะมีแค่หมอที่จู้จี้ แต่จริงๆแล้วเค้าต้องสะอาดมากๆจริงๆด้วย” นางพูดในแง่ที่หมอคอยจู้จี้กับนางในเรื่องการป้องกันการติดเชื้อ ในตอนแรกนางคิดว่าการใส่ถุงมือแล้วห้ามจับแมส ห้ามจับนู้นจับนี้ เป็นเรื่องเว่อวังไป เพราะนางเชื่อว่าหมอเจ้านายของนางเป็นคนเรื่องมาก แต่พอนางไปรู้ไปเห็นว่าที่คณะสุดกว่าหมอของนาง ก็ทำให้นางจริงจังกับการปลอดเชื้อมากขึ้น ก็คิดว่าเอ้อจ่ายไปเกือบหมื่น ได้มาแค่นี้ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย... อันที่จริงก็ยังมีส่งไปอีกเมื่อทราบข่าวว่ามีการจัดอบรม หลังๆก็พาไปเที่ยวแล้วพ่วงดูงานคลินิกใหญ่ๆ ก็ได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดี ให้คำแนะนำ จัดการต้อนรับอย่างดี นับว่าโชคดีเหมือนกันที่เจอแต่เจ้าของคลินิกที่ดีๆ ในเรื่องความรู้และทักษะนั้นต้องยอมรับว่าหมอเจ้าของคลินิกยังต้องเป็นผู้สอนและพัฒนาผู้ช่วยด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นงานที่ต้องใช้เวลาการฝึกฝนและความสนใจใคร่รู้ของตัวผู้ช่วยเองด้วย การส่งไปเรียนระยะสั้น 2-3 วันนั้น ไม่สามารถเพิ่มทักษะการเข้าช่วยได้เท่าไรนัก และการสอนงานเองนั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อไม่ใช่น้อยเลย ต้องพูดซ้ำๆซากๆ พูดเรื่องเดิมๆ ผ่านไปสักพักก็วนกลับมาผิดเรื่องเดิม...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

อยากเปิดคลินิกต้องเริ่มต้นยังไง?

อยากเปิด"คลินิก"ต้องเริ่มต้นยังไง? เช็คลิสต์สำหรับคุณหมอที่คิดจะเปิดคลินิก ลองคิดดูเล่นคิดได้ครบแล้ว ค่อยเอามาประกอบร่างก็ได้ค่ะ1.เลือกคอนเซ็ปต์และกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน2.เลือกทำเลที่ใช่3.หาแหล่งเงินทุน วางแผนธุรกิจและการเงิน4.วางแผนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์5. การอ้างอิงรายงานวิชาการ ผลงานวิจัย สถิติ โดยข้อมูลที่อ้างอิงไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ6.ตั้งชื่อคลินิก7.วางระบบเวชระเบียนและหาทีมงาน8.วางแผนการตลาด9.ขออนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

ทำฟันหลักการมีแค่ 2 ข้อ

จำมาจนขึ้นใจจาก...อาจารย์ปาหนันตอนขึ้นคลินิกศัลย์ปี 5วันนั้นขึ้นไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ปักรากเทียมอาจารย์ทำเร็วมากรากเทียมไม่ยากทำฟันใช้หลักการแค่ 2ข้อต้องมีจรรยาบรรณและต้องปลอดเชื้อสั้นๆแต่ครอบจักรวาลมากๆมีจรรยาบรรณอาจจะวัดยากแต่ความสะอาดปลอดเชื้อเราต้องชัดเจน

อ่านต่อ

blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“พนักงานใหม่ต้องการอะไรจากเราบ้าง”

“พนักงานใหม่ต้องการอะไรจากเราบ้าง” ทำไมมาอยู่แป๊บๆก็ไป จะหาพนักงานสักคนให้อยู่กับเราได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ กว่าเค้าจะปรับตัวและเรียนรู้งานของเราจนลงงานได้จริงนั้นค่อนข้างใช้เวลามากทีเดียว โดยเฉพาะงานผู้ช่วยในคลินิกทันตกรรมนั้น บอกเลยว่า...ไม่ง่ายนอกจากทักษะการช่วยที่ดีที่เราต้องการจากเค้านั้น มาดูกันสิคะว่าแล้วเค้าล่ะต้องการอะไรจากเราบ้าง >> ต้องการทำงานในคลินิกที่ดีมีความมั่นคง >> ต้องการมีเพื่อนร่วมงานที่ดี เข้าใจและรับฟัง >> ต้องการเจ้านายที่ดี มีเมตตาและมีความยุติธรรม >> ต้องการค่าตอบแทนที่เหมาะสม ได้รับสวัสดิการที่ดี >> ต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี บรรยากาศน่าทำงาน >> ต้องการที่ดี สอนงาน และให้ความช่วยเหลือหัวหน้างาน >> ต้องการการยอมรับจากคนในองค์กร >> ต้องการพัฒนาตนเองและมีความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน >> ต้องการขอบเขตงานและปริมาณงานที่เหมาะสม หรือบางคนก็... ต้องการงานสบาย ต้องการวันหยุดเยอะๆ ต้องการกลับบ้านเร็ว ต้องการเจ้านายที่ไม่ดุ ต้องการหัวหน้าที่ไม่กดดัน ต้องการความชิล หรือบางคนก็...ไม่รู้มันต้องการอะไร อยู่ๆมันก็ออกไป แบบไม่บอกไม่กล่าว หายหัวไปแบบเหมือนไม่เคยรู้จักกัน...แบบนั้นก็มี 😅

อ่านต่อ