อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

ทำฟันหลักการมีแค่ 2 ข้อ

จำมาจนขึ้นใจจาก...อาจารย์ปาหนันตอนขึ้นคลินิกศัลย์ปี 5วันนั้นขึ้นไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ปักรากเทียมอาจารย์ทำเร็วมากรากเทียมไม่ยากทำฟันใช้หลักการแค่ 2ข้อต้องมีจรรยาบรรณและต้องปลอดเชื้อสั้นๆแต่ครอบจักรวาลมากๆมีจรรยาบรรณอาจจะวัดยากแต่ความสะอาดปลอดเชื้อเราต้องชัดเจน

อ่านต่อ

blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“พนักงานใหม่ต้องการอะไรจากเราบ้าง”

“พนักงานใหม่ต้องการอะไรจากเราบ้าง” ทำไมมาอยู่แป๊บๆก็ไป จะหาพนักงานสักคนให้อยู่กับเราได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ กว่าเค้าจะปรับตัวและเรียนรู้งานของเราจนลงงานได้จริงนั้นค่อนข้างใช้เวลามากทีเดียว โดยเฉพาะงานผู้ช่วยในคลินิกทันตกรรมนั้น บอกเลยว่า...ไม่ง่ายนอกจากทักษะการช่วยที่ดีที่เราต้องการจากเค้านั้น มาดูกันสิคะว่าแล้วเค้าล่ะต้องการอะไรจากเราบ้าง >> ต้องการทำงานในคลินิกที่ดีมีความมั่นคง >> ต้องการมีเพื่อนร่วมงานที่ดี เข้าใจและรับฟัง >> ต้องการเจ้านายที่ดี มีเมตตาและมีความยุติธรรม >> ต้องการค่าตอบแทนที่เหมาะสม ได้รับสวัสดิการที่ดี >> ต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี บรรยากาศน่าทำงาน >> ต้องการที่ดี สอนงาน และให้ความช่วยเหลือหัวหน้างาน >> ต้องการการยอมรับจากคนในองค์กร >> ต้องการพัฒนาตนเองและมีความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน >> ต้องการขอบเขตงานและปริมาณงานที่เหมาะสม หรือบางคนก็... ต้องการงานสบาย ต้องการวันหยุดเยอะๆ ต้องการกลับบ้านเร็ว ต้องการเจ้านายที่ไม่ดุ ต้องการหัวหน้าที่ไม่กดดัน ต้องการความชิล หรือบางคนก็...ไม่รู้มันต้องการอะไร อยู่ๆมันก็ออกไป แบบไม่บอกไม่กล่าว หายหัวไปแบบเหมือนไม่เคยรู้จักกัน...แบบนั้นก็มี 😅

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

รับสมัคร..ผู้ช่วยอีกแล้วเหรอ!

รับสมัคร.. ผู้ช่วยทันตแพทย์อีกแล้วเหรอ! มีคนถามว่าคลินิกมีกี่สาขาทำไมรับคนเยอะจัง????อยากจะยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา>>>สาขาเดียวนี่ละค่ะวิกฤตแรงงานมั้ยถามสิคิดไปคิดมาหลายตลบกลับมาโทษตัวเองต่องานเรามันไม่น่าทำรึไงนะหรือคลินิกเราไม่น่าอยู่….ใช่ นั่นก็เป็นไปได้!!!ในยุคที่…ขายครีมก็รวยเต้นติ้กตอกก็รวยขายบอนสียังรวยมันทำให้งานที่ต้องอาศัยแรงและใช้ทักษะแบบงานผู้ช่วยทันตแพทย์นั้น หาคนมาทำงานยากจริงๆนะด้วยเนื้องานที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเค้า เริ่มต้นวันแรกยังกะแดนสนธยา เครื่องมือบ้าๆเป็นร้อยชื่อ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะรับคนข้ามาวันแรกแล้วรุ่งขึ้นเค้าก็หายไปเลยในสัปดาห์แรกของพนักงานใหม่ ก็จะเป็นอะไรที่ลุ้นมากว่าเช้านี้ มันจะมามั้ยว่ะ5555ยิ่งเราเป็นงานภาคเอกชนเล็กๆที่นับวันยิ่งมีช่องว่างกับงานราชการมากขึ้นทุกวันโดยเฉพาะวุฒิป.ตรี ราชการรับราวๆหมื่นหกถึงหมื่นแปด หยุดสองวันและยังมีนักขัตฤกษ์อีกตลอดปีทำงานแปดโมงครึ่ง บ่ายๆก็เถลไถลได้ไม่มีใครว่าความต่างยิ่งมากขึ้นทุกวันทางแก้ในตอนนี้ก็คือรับพนักงานไว้เกินสักแรงหรือครึ่งแรง เวลาขาดแล้วมันจะได้ไม่ตึงเกินไป เพราะรับมาแล้วกว่าจะได้ใช้งานได้จริงก็ร่วมๆ3 เดือนแต่อย่างไรก็ตามมันก็หายากจริงๆนะ

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“ทำอาหาร”กับ”เปิดร้านอาหาร”มันคนละเรื่องกัน…ว่ามั้ย

"ทำอาหาร"กับ"เปิดร้านอาหาร" มันคนละเรื่องกัน...ว่ามั้ย ทำฟันก็เช่นกัน...ทำฟัน = คุณหมอเปิดคลินิก = เจ้าของกิจการทั้ง 2 อย่างนั้นใช้ทักษะคนละอย่างกันเราใช้เวลา 6 ปี ในการเรียนรู้และเตรียมตัวสำหรับการเป็นหมอแล้วถ้าเราจะเปิดคลินิก...อย่าลืมใช้เวลาเพื่อเรียนรู้และเตรียมตัวสำหรับการเป็น เจ้าของกิจการด้วยนะคะ

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

เมื่อสรรพการเรียกหา..ต้องทำอย่างไร??

เมื่อสรรพการเรียกหา..ต้องทำอย่างไร?? ทำงานมา 15 ปี ได้รับจดหมายจากสรรพากร 3 ครั้ง มีเจ้าหน้าที่มาเยี่ยมที่คลินิก 1 ครั้ง จากประสบการณ์ที่มี บอกตรงนี้เลยค่ะ… ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะ ถ้าได้รับหนังสือมาก็เปิดอ่านเลยค่ะ ลองดูเนื้อความที่ท่านทักทายเรามา อาจจะให้เราไปแสดงยอดลดหย่อนพร้อมใบเสร็จ หรืออาจให้เรายื่นเอกสารหัก ณ ที่จ่ายเพิ่มเติม หรือให้เราชำระภาษีครึ่งปีก็เป็นได้ อ่านได้ใจความว่าอย่างไรก็จัดการตามนั้นเลยค่ะ โดยส่วนตัวจะโทรกลับทันทีที่ได้รับจดหมาย รายงานตัวพร้อมกับนัดเวลาที่จะเข้าพบ ถามเอกสารต่างๆที่ต้องเตรียมไป ท่าทางต้องแสดงชัดเจนว่าให้ความร่วมมือเต็มที่ อยากได้เอกสารอะไรให้บอกมาเลย ขอนัดล่วงหน้าสัก2-3 วันเผื่อรวบรวมเอกสารและหาของติดไม้ติดมือไปด้วยนะคะ ไปก่อนเวลานัดสัก 10 นาที ชี้แจงเอกสารให้เรียบร้อย ส่วนของฝากก็วางไว้บนโต๊ะ แต่ยังไม่ต้องให้นะคะ วางไว้พอให้ได้รับความเมตตาก็พอค่ะ เสร็จธุระค่อยให้เป็นการแสดงความขอบคุณ ส่วนของฝากก็ไม่ต้องเล่นใหญ่เล่นโตนะคะ อาจจะเป็นขนมเจ้าดังหรือผลไม้พรีเมี่ยมสักนิดสักหน่อย พอรู้ว่าจัดหามาพิเศษนะคะ ของฝากนั้นก็แค่แสดงว่าเราขอบคุณที่เค้าช่วยเหลือเราแค่นั้นเองค่ะ อย่าลืมว่าเรื่องภาษีหรือกฏหมายต่างๆเราแค่พอรู้หรือเราจะรู้เยอะก็ตาม แต่เค้าก็สามารถช่วยเหลือและให้คำแนะนำที่ดี ช่วยอำนวยความสะดวกเราได้มากเช่นกันค่ะ สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าคลินิกจะเล็กแค่ไหน สิ่งที่ต้องมีและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอก็คือ >>>บัญชีประจำเดือนค่ะ บัญชีก็ทำแบบง่ายๆก็ได้ค่ะ รายรับ>> รับมาเท่าไหร่ มีหัก ณ ที่จ่ายมั้ย อันนี้สำคัญนะ มันจะไปสำแดงในระบบ ดังนั้นในบัญชีเราควรมียอดอันนี้อยู่ด้วย รายจ่าย>> จ่ายอะไรไปบ้าง ทุกอย่างควรมีบิลและเก็บบิลให้เรียบร้อย สรุปกำไรสุทธิแต่ละเดือน เอกสารควรจะจัดทำทุกเดือนพร้อมโชว์ตลอดเวลา...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
Dentbiz101, Uncategorized, การจัดการคลินิก

“ทันตแพทย์”ยื่นภาษีอะไรยังไงบ้าง?

"ทันตแพทย์"ยื่นภาษีอะไรยังไงบ้าง? ยื่นกันได้แล้วนะคะ #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขอเอิ้นกันในส่วนของบุคคลธรรมดาล่ะกันนะคะ ส่วนในนามนิติบุคคลนั้น ถึงแม้จะมีรายละเอียดมากมายแต่สำนักงานบัญชีก็จะเป็นผู้จัดการให้เราอยู่แล้ว เราแค่ส่งข้อมูลให้เค้าก็จบล่ะ ในนามของบุคคลธรรมดานั้นเรามาดูแต่ละส่วนกันเลยค่ะ... ว่ามีอะไรบ้าง เริ่มกันที่ #รายได้พึงประเมิน ประเภทของรายได้พึงประเมินจากการทำฟัน ก็จะอยู่ใน 3 หมวดนี้นะคะ 40(1) เงินได้จากการจ้างงาน ซึ่งก็คือเงินเดือนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เป็นทันตแพทย์ราชการ ทันตแพทย์ของบริษัทอื่นๆ ถ้ารับเป็นเงินเดือนก็เข้าหมวดนี้ค่ะ ก็คือเอาเงินเดือนที่ได้ทั้งปีรวมกันก็จะได้ก้อนนี้ค่ะ 40(2) เงินได้จากการจ้างงานเป็นครั้งคราว ก็เช่นรายได้จากคลินิกนอกเวลา รายได้จากการไปเป็นมือปืน รายได้จากการไปเป็นวิทยากร อาจารย์พิเศษ ก็ว่ากันไป ในข้อนี้ก็คือรายได้จากการเอาแรงไปแลกเงินมาอ่ะค่ะ 40(6) รายได้จากการประกอบวิชาชีพอิสระ ซึ่งในหมวดนี้ได้ประกอบด้วย 6 วิชาชีพ คือประกอบโรคศิลป์ นักบัญชี วิศวกร นักกฏหมาย และสถาปนิก ซึ่งรายได้จากการประกอบวิชาชีพได้รับจะเข้าลักษณะเป็นเงินได้จากวิชาชีพอิสระตามมาตรา 40(6) ต้องเข้าเงื่อนไข 3 ประการ คือ 1)...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

ดีที่สุด…ไม่มีอยุ่จริง!!! มีแต่คำว่า…ดีขึ้น

ดีที่สุด...ไม่มีอยุ่จริง!!! มีแต่คำว่า...ดีขึ้น คนไข้เยอะ คิวยาวเป็นเดือน!!! จุดนี้คือจุดที่น่ากลัวที่สุดจุดนึงเลยนะ คิดว่าหลายคนคงเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว และถ้าใครยังอยู่ในจุดนี้ได้ก็ขอคาราวะ และอยากจะขอคำชี้แนะด้วยเช่นกันค่ะ แต่ในภาวะที่หมอฟันเยอะขึ้น คลินิกมากขึ้น ก็ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดหายไป ยอดคนไข้จัดฟันลดลง ยอดรวมก็อาจจะลดลงเช่นกัน ประเด็นก็คือถ้าเรากำลังอยู่ในจุดที่คนไข้เค็มตารางนัด จงอย่าลิงโลดใจ มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งที่ต้องทำคือ อย่าปล่อยให้คนไข้เยอะ จนนั่งรอเต็มคลินิก เยอะจนเราทำไม่ทัน เพราะถ้าเราไม่หาระบบมาจัดการ หรือหาวิธีมาควบคุมคุณภาพของบริการ เวลาคนไข้หายไป ก็จะไปเลยนะคะ แต่... สิ่งที่จะต้องทบทวนอยู่เสมอ หาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมคนไข้ถึงเยอะ ทำไมคนไข้จึงมาหาเรา แล้วรักษามาตรฐานนั้นไว้อย่าให้ตก เมื่อคุณจัดการระบบได้ ยอดสูงขึ้นแต่คนไข้ก็จะไม่แออัดแล้วถือว่าเราจัดการสำเร็จ แต่นั่นไม่ใช่จุดที่ปลอดภัย คุณจะวางใจได้ก็ต่อเมื่อ คุณได้พัฒนาบางอย่างให้ดีเพิ่มขึ้นไปอีก แล้วมันก็จะมาถึงจุดที่คนไข้แน่น คิวเต็มอีกครั้ง หลังจากนั้นคุณก็จะต้องพัฒนามันขึ้นไปอีก จนทุกอย่างดีขึ้นพร้อมกับยอดที่อาจจะไม่สูงขึ้นแต่คงจะไม่ตกลงล่ะกัน มาถึงตอนนี้เราจะรู้สึกว่าเอ๊ะ!! ใช่ค่ะ... มันจะไม่มีวันอยู่ตัว เพราะไม่มีคำว่าดีที่สุด มีแต่ว่า…มันจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ฟังดูแล้วเหนื่อยใช่มั้ยคะ แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของคลินิก คุณคือเจ้าของธุรกิจ คุณต้องทำค่ะ โลกมันเปลี่ยนไวมาก จนไม่กล้าบอกเลยว่า “ไม่ต้องทำก็ได้” เพราะเอาจริงๆก็ไม่กล้าเหมือนกัน คลินิกทันตกรรมมันจะไม่ใช่ตลาดผูกขาดอีกต่อไป และผู้บริโภคสมัยนี้ก็เปลี่ยนใจง่ายซะด้วยสิ

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง…ต้องชนะบ้างแหละ

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง...ต้องชนะบ้างแหละ #รู้เขา มีใครบ้างที่เราต้อง...รู้เขา คนแรกเลยคือ #คนไข้ หรือลูกค้าของเราไงคะ ไม่มีทางที่คนทั้งประเทศจะเป็นคนไข้ของเรา บางคนชอบโค้ก บางคนชอบเปปซี่ แล้วใครล่ะที่ชอบคลินิกเรา เด็กเล็กๆ วัยรุ่น วัยทำงาน วัยเกษียณ คนแถวไหน มาด้วยแนะนำหรือมาด้วยสื่อโซเชียล จ่ายเงินเองหรือมีคนจ่ายให้ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมากกว่ากัน มาด้วยรถแบบไหน แล้วทำไมถึงเลือกมาที่เรา เรื่องนี้เราต้องรู้นะคะ รู้แล้วก็มัดให้อยู่หมัดเลยค่ะ คนที่สองที่เราต้องรู้คือ #คู่แข่ง ของเรานั่นเองค่ะ ฟังดูแล้วดุเดือดมั้ยคะ ใช้คำว่าคู่แข่ง การมองว่าเป็นคู่แข่งนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนะคะ เพราะเราไม่ใช่จะเลือกทุกคนมาเป็นคู่แข่งเรา ..จริงมั้ย มันต้องสูสีกันหน่อย มันต้องแย่งมาร์เก็ตแชร์เราไปได้บ้างแล้ว ดังนั้นคนที่เราเลือกมาเป็นคู่แข่งก็หมายความว่าเราาเลือกแล้ว5555555 แล้วคู่แข่งเราคือใคร อันนี้ส่วนตัวจะเลือกฟังจากคนไข้ค่ะ ถ้าคนไข้เอ่ยชื่อคลินิกไหนขึ้นมาในคลินิกเราก็จะนับเป็นคู่แข่งทันทีนะ เลือกแล้วก็แอบส่องบ้าง แอบสปายหน่อย โลตัสยังส่งคนไปส่องบิ๊กซีเลย แล้วไปกันทุกสัปดาห์นะ นับประสาอะไรกับเราที่จะส่องเพื่อนบ้างไม่ได้ เพื่อนเค้าก็ส่องเรา ก็เจ๊าๆกันไป เราต้องรู้จักคู่แข่งเราเพื่อที่เราจะได้โฟกัสได้ถูกจุด มีคนให้เปรียบเทียบมันก็ทำให้เราเห็นจุดอ่อนตัวเองได้ง่ายขึ้น แข่งขันกันให้บริการที่ดีกว่าสนุกกว่าเล่นอยู่คนเดียวตั้งเยอะ รู้เขาสองคนไปแล้ว ที่นี้ก็มา #รู้เรา บ้าง ข้อนี้สำคัญที่สุดดค่ะ เราต้องรู้จักตัวเองก่อน เราเป็นใคร เก่งตรงไหน และแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร ง่ายๆก็คือเราดีกว่าคนอื่นยังไงนั้นเองค่ะ ...เพราะการเล่นเป็นตัวเองมันง่ายที่สุดค่ะ ดูง่ายๆ จากร้านอาหารล่ะกันค่ะ บางร้านทำแกงหวานยังกะต้มบวชฟักทอง แต่ก็ยังมีคนไปกิน ก็ใช่ไง... ก็เพราะมันมีคนที่ชอบกินหวานไง เค้าก็จะได้กลุ่มลูกค้ากลุ่มนั้นไป ถ้าเค้าเล่นทำหวานน้อยคนเหล่านี้ก็จะไม่มากินแถมบ่นอีก แกงจืดไปนะไม่ถึงเลย ก็เหมือนเราเเหละถ้าเราเป็นหมอพรอส แต่มีคนทักว่าคลิกนิกโน้นมีเด็กเต็มไปหมดเลยแล้วเราจะต้องหันมาทำเด็กเพื่อเอาคนไข้ด้วยมั้ย...ก็คงไม่ เราต้องเลือกว่าเราจะเล่นตลาดไหน จะตลาด nich หรือตลาด mass แล้วโฟกัสให้ตรงจุด ยิงให้ตรงเป้า ดังนั้น ให้โฟกัสที่คนที่ชอบเราให้มากๆ พัฒนาในจุดแข็งของเราให้เต็มที่และเสริมจุดอ่อนแค่อย่าให้มันเป็นจุดด้อยก็พอ ทำธุรกิจมันก็เหมือนเล่นเกม ต้องเลือกเกมที่เราจะเล่น อย่าเล่นในเกมที่เราแพ้ และเกมที่เราไม่ควรเล่นเลยก็คือ...เกมราคา เพราะมันจะพังทั้งตลาด สู้กันด้วยคุณภาพสนุกกว่ามากเพราะไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร ประโยชน์ก็ตกแก่สังคม แก่พื้นที่ที่เราอยู่ ตกแก่คนไข้ของเรานี่แหละค่ะ ถ้ายึดผลลัพธ์อันนี้ รู้เขา รู้เรา...รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้งแน่นอนค่ะ

อ่านต่อ