อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

จ้างผู้ช่วยกี่คนดี

>>>จ้างผู้ช่วยกี่คนดี<<< เป็นความลังเลหนึ่งที่มีอยู่ตลอดสิบกว่าปี ตอนเปิดคลินิกใหม่ๆก็ไม่กล้าจ้างเยอะกลัวไม่มีคนไข้ ยิ่งหมอที่รับราชการด้วย เปิดคลินิกเฉพาะตอนเย็นยิ่งไม่กล้าจ้างเข้าไปอีก พอเปิดมาได้สักพักก็รู้สึกเบื่อกับปัญหาขาดลามาสาย อยากแต่จะจ้างเพิ่มอยู่ตลอดเวลาเพื่อตัดปัญหา แต่เค้าก็ว่ากันว่ามี 2 อย่างที่มีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอนั่นคือ” เงินกับที่ “ ไม่จริงสินะ....ผู้ช่วยอ่ะมีเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ วิธีแรก...โดยหลักการแรงงานจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 20% ของยอดขาย ก็ลองประมาณการดูว่ายอดขายที่เราคิดไว้สักเท่าไหร่ เอาสมมติ เป็นคลินิกเปิดใหม่ต่างจังหวัดทำเฉพาะตอนเย็น กับ เสาร์ อาทิตย์ยอดขายสัก 300,000 ดีมั้ย ค่าแรงพนักงานก็จะอยู่ที่ 20% ก็คือ...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“ไม่ใช่ว่า…ใครก็ได้ แต่ได้แค่…ใครบางคนเท่านั้น”

“ไม่ใช่ว่า...ใครก็ได้ แต่ได้แค่...ใครบางคนเท่านั้น” บ่อยๆที่พนักงานไม่ได้ดั่งใจ ส่ังซ้ายได้ขวา บอกให้เดินหน้าแต่ดันยืนเฉย แล้วเราก็ได้แต่กลุ้มใจว่า ทำไมไม่ได้ดั่งใจสักที เพราะ... เราไม่ได้ใส่ใจที่จะเลือกตั้งแต่แรก เราไม่ได้ให้เวลากับการคัดสรร เราไม่ได้ใส่ใจกับการพิจารณา เราไม่ได้สร้างกฏการทำงาน เราไม่ได้ทุ่มเทกับการฝึกฝน สุดท้ายเราก็ได้คนที่ไม่ใช่ สำคัญที่สุดคือ คนที่จะทำงานกับเรานั้น ต้องเป็นแค่ใครบางคนเท่านั้น คนที่เหมาะสม คนที่คู่ควรกับงานและผลตอบแทนก้อนนี้ แล้วถ้าที่มีอยู่มันไม่ใช่ บอกแล้วแต่ไม่ทำตามหรือทำตามไม่ได้ จะทำอย่างไรดี… คำตอบเดียวที่มีเลยคือ...เปลี่ยนคนค่ะ

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

6สิทธิแรงงาน ที่เจ้าของคลินิกต้องรู้

6สิทธิแรงงาน ที่เจ้าชองคลินิกต้องรู้ ข้อมูลแรงงานเป็นสิ่งนึงที่เราในฐานะเจ้าของกิจการจะต้องศึกษาเอาไว้ เพราะเป็นกฎหมายแรงงาน คำว่ากฎหมายก็คือไม่ทำไม่ได้ ไม่รู้ไม่ได้นะคะ อย่างน้อยๆเวลาที่กำหนดเวลาทำงานหรือวันหยุดหรือการจ่ายค่าตอบแทนก็จะได้มีหลักในการคำนวณ ไม่ให้พนักงานมาโต้แย้งหรือเรียกร้องเอาได้ค่ะ โดยส่วนตัวที่คลินิกก็จะร่างกฏพนักงานตามกฎหมายแรงงานเลยค่ะ สิทธิแรงงาน ตามกฎหมายไทย มีดังนี้ 1. เวลาทำงาน - งานทั่วไปกำหนดให้ทำไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สำหรับงานอันตรายตามที่กำหนดในกฏกระทรวง กำหนดให้ทำไม่เกิน 7...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

ทำฟัน10ชั่วโมงไม่สะเทือน ประชุม3ชั่วโมงกลับบ้านนอนสลบ

ก่อนเปิดคลินิกแทบทุกคนก็คงจะเคยเป็นมือปืนมาก่อน จนวันนึงก็ถึงเวลาที่คิดว่าเป็นของเราเองล่ะ วิ่งทำงานหลายที่มันเหนื่อยอ่ะ อยากมีที่ทางที่เป็นของตัวเอง สำหรับตัวเองยังรู้สึกบ่อยๆว่าคลินิกเราคือรูหนูที่ปลอดภัย ทำงานตั้งหลายที่ ทำทุกวันยังไหวเลย เฝ้าคลินิกตัวเอง 7 วันมันจะไปยากอาร้ายยยยยย ชิ๊สสสสส ใช่เลยค่ะ ที่คิดไว้...ไม่ผิดเลย ทำฟัน ทำไปเถอะทั้งวันทั้งคืน จบงานยังไปนั่งคาเฟ่ จิบเบียร์ ชนแก้วได้...บ่ยั่นเด้อค๊า แต่งานที่ดูดวิญญาณจริงๆในฐานะเจ้าของคลินิก มันคืองานหลังบ้านนี่ล่ะค่ะ ประชุมแล้วก็อบรมสั่งสอน เลี้ยงดูพนักงาน นี่ล่ะค่ะคืองานที่แสนจะทรมานของจริง ก่อนประชุมมันต้องมีปัญหา หรือมีหัวข้อที่เราอยากจะพัฒนาใช่มั้ยคะ เขียนออกมาสิคะสิบยี่สิบข้อ เอาเข้าจริงได้ 3...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“ไม่ได้ ต้องได้” No, It’s not an option“

“ไม่ได้ ต้องได้” No, It’s not an option หัวใจของการบริหารคนไข้เลยค่ะ เป็นสิ่งแรกที่ต้องฝังเข้าไปในหัวของพนักงานและผู้ช่วยให้ได้ก่อนเลย เริ่มจากในองค์กรก่อนค่ะ หมอสั่งอะไรแปลว่าต้องได้...

อ่านต่อ

blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“ทำงานกันแบบครอบครัว”ใช้ได้…แต่ไม่ใช่กับทุกคน

Assistant first Patient second “ทำงานกันแบบครอบครัว” ใช้ได้...แต่ไม่ใช่กับทุกคน และคลินิกส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น หมอไม่ได้มองผู้ช่วยเป็นพนักงานคนหนึ่ง เพราะส่วนใหญ่ความสัมพันธ์เริ่มจากการเป็นหมอกับผู้ช่วย มาช่วยข้างเก้าอี้ทุกวัน รู้ใจกันยิ่งกว่าใครๆ ขยับนิดนึงก็รู้ว่าต้องการอะไร สารทุกข์สุขดิบสามารถรับรู้กันได้ระหว่างเคสตลอดเวลา และยิ่งอยู่กันนานๆ ถึงขั้นเลี้ยงลูกให้ ไปรับไปส่ง ทำธุระให้หมอทุกเรื่อง หมอจึงให้ความสำคัญกับผู้ช่วยประหนึ่งเป็นคนในครอบครัว แต่ไม่ใช่กับผู้ช่วยทุกคนนะจ๊ะ คุณหมอหลายท่านไม่ได้วางระยะที่เหมาะสมไว้ตั้งแต่แรก จึงลำบากใจในการบริหารจัดการ ยิ่งใช้คำว่าทำงานกันแบบครอบครัวยิ่งเวิ่นไปกันใหญ่ ความสัมพันธ์แบบนี้จะว่าดีก็ดี แต่ก็มีข้อเสียมากอยู่ ลองเปลี่ยนมาบริหารแบบทีมฟุตบอลดูก็ดีอยู่นะ ซึ่งในทีมก็จะมี กองหน้าเป็นเค้าเตอร์ กองกลางเป็นผู้ช่วยข้างเก้าอี้ กองหลังเป็นแบคออฟฟิศ ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง มีวินัยและขยันซ้อม ใครทำหน้าที่ไม่ดี...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

Assistant first Patient second

Assistant first Patient second ใช่แล้วค่ะ โดยปกติมันจะต้องเป็น customer first ใช่มั้ยคะ แต่สำหรับธุรกิจที่ต้องการความยั่งยืนและสายบังคับบัญชาสั้นๆแบบคลินิกทันตกรรมส่วนตัวนั้น ต้องขอให้เป็น assistant first แทนนะคะ >>>เริ่มต้นที่วิธีคิดว่าพนักงานคือนวัตกรรมหนึ่งที่เราต้องลงทุนให้กับคลินิกของเราก่อนค่ะเหมือนเครื่องเอกซเรย์ เหมือนยูนิตทำฟันตอนเราเลือกเราเลือกอย่างไรตั้งโปรแกรมใช้งานโหมดไหนตอนเราใช้งานเรากลัวมันเสีย กลัวมันพังยังไงพอมันเสีย เรารีบเรียกช่างมาซ่อมซ่อมไม่ได้ก็ต้องหยุดใช้งานไปหลายวันก็หยุดฉันใดฉันนั้น>>เลือกคนราคาถูกก็ได้งานราคาถูก ให้เวลา ให้ความสำคัญกับการเลือกคนให้มาก>>โปรแกรมระเบียบการทำงานหรือสอนงานเค้าให้เค้าทำในแบบที่เราต้องการหรือปล่อยเค้าตามมีตามเกิด>>พอเค้ามีปัญหา...

อ่านต่อ

อ่านต่อ
blog, Dentbiz101, การจัดการคลินิก

“ ไม่อยากส่งผู้ช่วยหรือพนักงานไปเรียน หรือไม่อยากเสียเวลาในการอบรมหรือสอนงาน #เพราะกลัวเค้าลาออก

“ ไม่อยากส่งผู้ช่วยหรือพนักงานไปเรียน หรือไม่อยากเสียเวลาในการอบรมหรือสอนงาน #เพราะกลัวเค้าลาออก ” เชื่อว่านี่เป็นความกลัวที่หมอฟันอย่างเราจะกลัวกันเยอะเลย ถ้าเป็นการอบรม โดยส่วนตัวก็เคยส่งไปบ้างนานแล้ว ในช่วงที่ยังไม่มีโควิด แต่ก็นานๆสักครั้งหนึ่งประจวบกับไม่ค่อยมีคลาสเรียนหรือคอร์สอบรมที่ตรงกับสายงานผู้ช่วยทันตแพทย์เท่าไหร่ มีครั้งหนึ่งส่งผู้ช่วยไปเรียนตอนที่ภาคศัลย์ของจุฬาจัด กลับมาก็ไม่ได้ว่าจะทำงานดีขึ้นเท่าไหร่เพราะจัดแค่ 2 วัน ก็คงไม่ได้ฝึกฝนอะไรมากมาย แต่ก็ได้ประโยคเด็ดมาประโยคหนึ่ง ความว่า “หนูคิดว่าจะมีแค่หมอที่จู้จี้ แต่จริงๆแล้วเค้าต้องสะอาดมากๆจริงๆด้วย” นางพูดในแง่ที่หมอคอยจู้จี้กับนางในเรื่องการป้องกันการติดเชื้อ ในตอนแรกนางคิดว่าการใส่ถุงมือแล้วห้ามจับแมส ห้ามจับนู้นจับนี้ เป็นเรื่องเว่อวังไป เพราะนางเชื่อว่าหมอเจ้านายของนางเป็นคนเรื่องมาก แต่พอนางไปรู้ไปเห็นว่าที่คณะสุดกว่าหมอของนาง ก็ทำให้นางจริงจังกับการปลอดเชื้อมากขึ้น ก็คิดว่าเอ้อจ่ายไปเกือบหมื่น ได้มาแค่นี้ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย... อันที่จริงก็ยังมีส่งไปอีกเมื่อทราบข่าวว่ามีการจัดอบรม หลังๆก็พาไปเที่ยวแล้วพ่วงดูงานคลินิกใหญ่ๆ ก็ได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดี ให้คำแนะนำ จัดการต้อนรับอย่างดี นับว่าโชคดีเหมือนกันที่เจอแต่เจ้าของคลินิกที่ดีๆ ในเรื่องความรู้และทักษะนั้นต้องยอมรับว่าหมอเจ้าของคลินิกยังต้องเป็นผู้สอนและพัฒนาผู้ช่วยด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นงานที่ต้องใช้เวลาการฝึกฝนและความสนใจใคร่รู้ของตัวผู้ช่วยเองด้วย การส่งไปเรียนระยะสั้น 2-3 วันนั้น ไม่สามารถเพิ่มทักษะการเข้าช่วยได้เท่าไรนัก และการสอนงานเองนั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อไม่ใช่น้อยเลย ต้องพูดซ้ำๆซากๆ พูดเรื่องเดิมๆ ผ่านไปสักพักก็วนกลับมาผิดเรื่องเดิม...

อ่านต่อ