เมื่อโดน ผู้ช่วยฟ้องร้อง!!!
ห่างหายไปนานไม่ได้มาเขียนเพจเลยค่ะ
มีเรื่องราวมากมายนะทยอยเล่าก็แล้วกัน เรื่องแรกที่จะเล่าหลังจากร้างราไปนาน
สำหรับเจ้าของคลินิกอย่างเราก็คงไม่พ้นเรื่องผู้ช่วย!!!
มีพี่ที่คลินิกนึงเค้าโดนผู้ช่วยฟ้องค่ะ !!!
ผู้ช่วยที่เรา รักเค้านักรักเค้าหนานี่ล่ะค่ะ อยู่กันมาเป็น 10 ปี
แต่พอวันนึงกลายเป็นอื่นก็เหมือนกับคู่รักนั่นแหละค่ะ พอเป็นอื่นแล้วก็คุยกันไม่รู้เรื่องซะแล้ว
วันที่มีปัญหากันถ้าเค้าลาออกเองก็จบไป
แต่ถ้าเค้าไม่ลาออก
อยู่ดึงเชงไปเรื่อยๆ ให้เราหงุดหงิดใจ จนเผลอไล่เค้าออกเอง
คราวนี้ละสิ่งที่ตามมาก็คือเงินชดเชยตามอายุงานสูงสุดคือ ลูกจ้างที่มีอายุงาน 20 ปีขึ้นไปจ่ายชดเชยไม่น้อยกว่า 400 วัน คือราวๆ 13 เดือน ถ้าเป็นค่าแรงคลินิกก็หลักแสนอยู่นะ
ถ้าคิดว่าตอบแทนที่เคยอยู่กันมา ให้ได้ก็ไม่ต้องแคร์ค่ะ แต่ถ้าจากกันแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บาทนึงก็ไม่อยากจะให้ก็ต้องดำเนินการต่างๆให้รัดกุมกว่านี้
สิ่งที่จะช่วยป้องกันและทำให้คุยกันง่ายขึ้นเมื่อเกิดปัญหานั่นก็คือ
#ระเบียบคลินิก และ #คู่มือพนักงาน ที่มีลายเซ็นรับทราบของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
#บันทึกการประชุมต่างๆ
#บันทึกการตักเตือนที่มีลายเซ็นกำกับ
ซึ่งเชื่อว่าหลายคลินิกไม่ได้ทำให้เป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจึงไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดพนักงานได้
เพราะสาเหตุที่จะทำให้เราเลิกจ้างหรือไล่ออกโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยมันก็มีอยู่ คือ
#ข้อยกเว้นที่นายจ้างสามารถเลิกจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง มีดังนี้
1. ลูกจ้างลาออกเอง โดยสมัครใจ
2. จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
3. ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน ซึ่งหนังสือเตือนนั้นให้มีผลบังคับได้ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด
4. ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
5. ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
6. ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
7. ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 3 วันทำงานติดต่อกัน ไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม โดยไม่มีเหตุอันสมควร
8. กรณีการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน และนายจ้างเลิกจ้าง ตามกำหนดระยะเวลานั้น
ดังนั้นเอกสารต่างๆที่เรามีและลงบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรนั้นเมื่อถึงเวลาจำเป็นก็สามารถเอาออกมายืนยันถึงการเลิกจ้างของเราได้ค่ะ
เพราะถ้าไม่มีแล้วพนักงานของเราไปฟ้องกรมสวัสดิการแรงงานแล้วเรื่องก็จะยาวค่ะ ต้องจ้างทนาย ต้องไกล่เกลี่ย ต้องคุยกันอ่ะ แล้วหมอฟันแบบเราๆก็มักจะไม่ถนัดเรื่องคุยแบบนี้ซะด้วยสุดท้ายก็จบที่การจ่ายไปให้มันจบๆ แบบเจ็บๆกันไป
ใช่แล้วค่ะ…เคสนี้จบที่การฟ้อง
แต่อย่างไรก็ตาม
คนที่อยู่กันมานาน…
เคยช่วยเหลือเคยดูแลกัน ยิ่งอยู่นานมันก็ยิ่งมีความดีให้คิดถึงกันมาก
แต่นั่นแหละความดีในอดีตก็ไม่อาจทดแทนความไม่ดีในปัจจุบัน เพราะคนเรามันอยู่กับปัจจุบันไง
เมื่อมีความดีอยู่บ้าง พอเค้าจะไปถึงเค้าจะทำผิด ถ้าพอจะให้อภัยได้บ้างก็ตอบแทนเค้าตามสมควรให้พอได้คิดถึงกัน
แต่ถ้ามันร้ายแรงมากก็… เบิ้ดคำสิเว่าเด้อ!!!!
ใส่ความเห็น